Splash Screen

เมื่อไรที่ผมควรเริ่มพูดคุยกับลูกๆ เกี่ยวกับพระเยซู?


DECEMBER 21, 2020 BY CHRIS WALE


เราปลูกผักไว้ที่ด้านหลังของสวน เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นโทมอส ลูกอายุห้าขวบของเรารับหน้าที่ดูแลแปลงผักบางส่วน (ส่วนลัค ลูกน้อยวัย 2 ขวบของเรา ยังอยู่ในช่วงที่เขาชอบขุดดิน!) ปีนี้เราอยากปลูกพาร์สนิป ซึ่งด้านหลังของซองเมล็ดมีข้อมูลเกี่ยวกับเดือนที่เราคาดว่าจะเห็นมันเติบโตและเดือนที่เราควรปลูก แต่เดือนเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว ทำให้เราไม่ได้ปลูกมันในปีนี้

หลักการเดียวกันนี้ใช้กับการสอนลูกๆ ของเราเกี่ยวกับพระเยซู ถ้าเราต้องการให้การพูดคุยเกี่ยวกับพระเยซูเกิดผลดีเมื่อพวกเขาโตขึ้น เราต้องทำงานล่วงหน้าเพื่อหว่านเมล็ดของพระเยซูไว้ในใจของพวกเขาและช่วยให้เมล็ดนั้นเติบโต

แล้วผมจะเริ่มเมื่อไหร่ดี?

ช่วงนี้ โทมอสอยู่ในวัยที่เขามักตั้งคำถามเกี่ยวกับพระเยซูเมื่อเราใช้เวลาในการเล่าเรื่องในพระคัมภีร์กับเขา เขาจะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับพระเจ้าเป็นครั้งคราว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่นี่เป็นผลจากการพูดคุยเกี่ยวกับพระเยซูกับเขามานานกว่าสามปี นั่นเป็นเวลาก่อนที่เขาจะรู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไรด้วยซ้ำ การตัดสินใจแนะนำพระเยซูให้ลูกๆ ของเราก่อนที่พวกเขาจะพร้อมมาจากคำแนะนำของเพื่อนบางคน

ตอนนี้ลูกของพวกเพื่อนๆ อยู่ในช่วงอายุกว่ายี่สิบปีแล้ว และพ่อแม่คนหนึ่งพูดว่า “เป็นเรื่องดีเสมอที่ได้อธิษฐานกับลูกๆ ของเราตอนที่พวกเขายังเด็กและมีเวลาอ่านเรื่องราวต่างๆ ในพระคัมภีร์ด้วยกันในครอบครัว ที่จริง ฉันอยากจะทำสิ่งนั้นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”


" ยิ่งเราพูดเกี่ยวกับพระเยซูช้าเท่าไร แนวโน้มในการแสวงหาตนเองและเอาแต่ใจตนเองของพวกเขาก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น "


พวกเขาตระหนักว่าการสร้างกิจวัตรโดยมีพระเจ้าเป็นศูนย์กลางในชีวิตของลูกๆ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาจะทำเพื่อลูกๆ ได้ สิ่งนี้สมเหตุสมผลสำหรับผมด้วย เพราะพระคัมภีร์เตือนว่า "....ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า" (โรม 3:11) ในโลกที่ชั่วร้ายของเรานี้ นี่เป็นสิ่งที่เริ่มต้นในใจของมนุษย์ทุกคน รวมถึงลูกๆ ของเราด้วย

ดังนั้น การเริ่มทำให้เด็กๆ เห็นแนวทางที่ดีกว่าโดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยสร้างกิจวัตรที่ความรักและความดีของพระเจ้าถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะรู้จักกับพระเยซูมากยิ่งขึ้น

เมล็ดพันธุ์แห่งการแสวงหาตนเองถูกปลูกไว้ในชีวิตของลูกๆ ของเราตั้งแต่แรกเกิด ดังนั้นจึงไม่มีคำว่าเร็วเกินไปที่จะเริ่มปลูกและดูแลเมล็ดพันธุ์แห่งการแสวงหาพระเจ้า ยิ่งเราพูดเกี่ยวกับพระเยซูช้าเท่าไร แนวโน้มในการแสวงหาแต่ตนเองและเอาแต่ใจตนเองของพวกเขาก็จะยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น ถ้าอย่างนั้น การพูดถึงพระเยซูตั้งแต่ที่พวกเขายังเป็นเด็กนั้นต้องทำอย่างไร?

อธิษฐาน

การอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอนับเป็นเครื่องหมายของการดำเนินชีวิตแบบคริสเตียน (1 เธสะโลนิกา 5:17) ดังนั้น เราควรให้ลูกหลานของเราได้เห็นสิ่งนี้ เพื่อนของเรากับลูกที่โตแล้วของเขาบอกเราว่าพวกเขามักจะมีวลีนี้อยู่ในใจเสมอ “มาอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ” พวกเขาต้องการให้การอธิษฐานเป็นการตอบสนองแรกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นแบบอย่างแก่ลูกๆ ของพวกเขาในการพึ่งพาพระเจ้า


" เมื่อเราอธิษฐาน เราวางใจที่จะฝากลูก ๆ ของเราไว้กับพระเจ้า แล้วลูก ๆ ของเราจะมองเห็นและสังเกตได้ว่าการพึ่งพาพระเจ้านั้นเป็นอย่างไร "


เมื่ออายุสี่ขวบ โทมอสเครียดกับการเริ่มไปโรงเรียน พวกเราก็อธิษฐานกับเขา ผมไม่รู้แน่ชัดว่าการอธิษฐานมีผลกระทบอะไรต่อเขาบ้างในขณะนั้น เขาไม่ได้ร่วมออกเสียงอธิษฐาน แต่ผมรู้ว่าสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเราได้ยินว่าคุณย่าป่วย เขาเริ่มอธิษฐานก่อนนอนโดยกล่าวว่า “เราต้องอธิษฐานเผื่อคุณย่าตอนนี้” เมื่อใดก็ตามที่ผมจะเริ่มอ่านพระคัมภีร์กับลูกๆ หรือเมื่อใดก็ตามที่โทมอสตั้งคำถาม ผมจะพูดกับพระเจ้าเบาๆ ว่า “โปรดใช้เวลานี้เพื่อให้พระองค์เป็นที่รู้จัก ขอให้หัวใจของลูกๆ ของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์”

เมื่อเราอธิษฐาน เราวางใจที่จะฝากลูกๆ ของเราไว้กับพระเจ้า แล้วลูกๆ ของเราจะมองเห็นและสังเกตได้ว่าการพึ่งพาพระเจ้านั้นเป็นอย่างไร

อ่านพระคัมภีร์

เราอ่านเรื่องราวในพระคัมภีร์ให้ลูกชายของเราฟัง แม้ว่าทั้งคู่จะอายุยังน้อยและมีวัยที่ห่างกันเกือบสามปีก็ตาม แต่เราก็อ่านเรื่องราวในพระคัมภีร์กับโทมอส และอ่านเรื่องราวเดียวกันที่สั้นกว่าและเข้าใจได้ง่ายกว่านั้นกับลัค


" ทำไมผมถึงอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูให้ลัคฟัง? มันเป็นเหตุผลเดียวกับที่ผมบอกลัคเสมอว่า วัวคือสัตว์ที่ร้อง “มอๆ” "


บางคนอาจถามว่า “ทำไมต้องอ่านเรื่องราวในพระคัมภีร์ให้เด็กอายุสองขวบฟังด้วยล่ะ?” ผมเข้าใจประเด็นของพวกเขา ลัคยังเชื่อว่าม้าร้อง “มอๆ” และเมื่อผมบอกอะไรที่แตกต่างออกไปจากที่เขาเข้าใจ เขาก็จะมองผมด้วยสายตาที่สลดลงเล็กน้อย

ทำไมผมถึงอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูให้ลัคฟัง? มันเป็นเหตุผลเดียวกับที่ผมบอกลัคเสมอว่า วัวคือสัตว์ที่ร้อง “มอๆ” ซึ่งสิ่งนี้เป็นความจริง และวันหนึ่งเขาก็จะโตพอที่จะรับความจริงนี้ได้ว่า วัวร้อง “มอๆ” ได้เร็วขึ้นเพราะผมตอกย้ำความจริงข้อนี้อยู่เสมอ ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับพระเยซูก็เช่นเดียวกัน ผมจะอ่านเรื่องราวในพระคัมภีร์ให้เขาฟังต่อไปเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่เช่นนั้น เขาจะเริ่มเข้าใจเรื่องราวแห่งความรอดได้อย่างไร?

จัดสรรเวลา

ครอบครัวเรามักจะพยายามจัดเวลาหนึ่งหรือสองครั้งในแต่ละสัปดาห์เพื่ออ่านพระคัมภีร์และอธิษฐานด้วยกัน (โดยปกติจะเป็นหลังอาหารเย็น)


" ความตั้งใจไม่ใช่การ "กาเครื่องหมายถูกลงในช่องว่าง" และให้ความรู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่คริสเตียนของเราแล้ว แต่เป็นการพัฒนาการพูดคุยทั่วๆ ไปเกี่ยวกับพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง เปิดกว้าง และสม่ำเสมอ "

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์สักข้อ พูดคุยเกี่ยวกับคำถามข้อหนึ่ง แล้วก็อธิษฐานด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ใช้เวลาเพียงห้าหรือสิบนาทีเท่านั้น ความตั้งใจไม่ใช่การ "กาเครื่องหมายถูกลงในช่องว่าง" และให้ความรู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่คริสเตียนของเราแล้ว แต่เป็นการพัฒนาการพูดคุยทั่วๆ ไปที่เกี่ยวกับพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง เปิดกว้าง และสม่ำเสมอ นี่เป็นรูปแบบง่ายๆ ที่ช่วยพัฒนาการพูดคุยเกี่ยวกับพระเจ้าให้เป็นธรรมชาติและสบายๆ

ใช้เวลาในช่วงวัยเรียนของเด็กๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เป้าหมายของเราในการกำหนดกิจวัตรและวิธีปฏิบัติเหล่านี้ก็คือการทำให้เด็กๆ ได้เดินทางไปกับพระเยซูอย่างแท้จริงด้วยตัวของเขาเอง ผู้บุกเบิกด้านการศึกษารายหนึ่ง (ซึ่งให้ความสนใจเป็นพิเศษกับเด็กในช่วงปฐมวัย) กล่าวว่า “ถ้าเราเปรียบเทียบความสามารถของเราในฐานะผู้ใหญ่กับความสามารถของเด็กแล้ว เราจะต้องทำงานหนักถึงหกสิบปี เพื่อประสบความสำเร็จเดียวกันกับที่เด็กทำได้เพียงแค่ในสามปีแรกของพวกเขา”


" เด็กในช่วงขวบแรกๆ ก็เหมือนฟองน้ำ พวกเขาแค่ดูดซับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยบ่อยครั้งที่เราก็ไม่รู้ตัว "


ประเด็นก็คือ เด็กในช่วงปีแรกๆ ก็เหมือนฟองน้ำ พวกเขาแค่ดูดซับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว โดยบ่อยครั้งที่เราก็ไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงมีเหตุผลมากพอที่จะเริ่มการสนทนาเกี่ยวกับพระเยซูในช่วงแรกนี้และปล่อยให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นเติบโตขึ้นทันที!

คริส เวล เป็นบรรณาธิการของพันธกิจมานาประจำวันในประเทศอังกฤษ เขามีของประทานในการสอนพระคัมภีร์ ไม่ว่าจะเป็นการเทศนา การนำกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์ หรือการเขียนบทความ เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกชายสองคน เขาเป็นพ่อที่ 'ลงมือปฏิบัติจริง' ที่ชอบใช้เวลาอยู่กับครอบครัว โดยไป 'ผจญภัย' และเล่นกับลูก ๆ ของเขา

บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Biblical Wisdom for Parents © Our Daily Bread Ministries หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม โปรดไปที่: https://biblical-parenting.org/

บทความนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน Biblical Wisdom for Parents © Our Daily Bread Ministries หากต้องการอ่านบทความเพิ่มเติม โปรดไปที่: https://biblical-parenting.org/

บทความ

พ่อกับแม่คะ : จดหมายจากลูกสาววัยรุ่นของคุณ

เกิดอะไรขึ้นในใจของลูกสาววัยรุ่นขณะที่เธอมองดูตัวเองในกระจกหรือเลื่อนดูฟีดในโซเชียลมีเดีย จดหมายด้านล่างเขียนโดยพี่น้องสองสาวที่บอกพ่อกับแม่ของเธอว่าจริงๆ แล้วเด็กสาววัยรุ่นทั่วไปคิดเห็นอย่างไร

อ่านต่อ >

เมื่อไรที่ผมควรเริ่มพูดคุยกับลูกๆ เกี่ยวกับพระเยซู?

ถ้าเราต้องการให้การพูดคุยเกี่ยวกับพระเยซูเกิดผลดีเมื่อพวกเขาโตขึ้น เราต้องทำงานล่วงหน้าเพื่อหว่านเมล็ดของพระเยซูไว้ในใจของพวกเขาและช่วยให้เมล็ดนั้นเติบโต

อ่านต่อ >

พูดคุยกับลูกอย่างไรดีเกี่ยวกับ … ความร่ำรวยและเงินทอง

คุณจะสอนลูกเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างไรดี? คุณคิดว่าคุณจะพยายามชี้แนะแนวทางให้ลูกว่าเขาควรใช้เงินกับสิ่งใดหรือไม่? คุณจะสอนลูกเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างไรดี ?

อ่านต่อ >